ตำรวจลุยจับเจ้าของร้านขายพลุแฟร์พร้อมยึดพลุแฟร์ เกือบ 2 พันอัน หลังจำหน่ายพลุแฟร์ ให้กลุ่ม'อุลตร้าไทยแลนด์'

ตำรวจหัวหมากบุกจับกุมร้านค้าจำหน่ายพลุแฟลร์ย่านบางนา ที่ขายให้กลุ่มแฟนบอล “อุลตร้า ไทยแลนด์” พร้อมดำเนินคดีข้อหายุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากกรณีเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ในการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 ระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติอินโดนีเซีย กลุ่มกองเชียร์ที่ใช้ชื่อว่าอัลฟ่าไทยแลนด์ ได้จุดพลุแฟลร์สีแดงเกิดควัน จนก่อความรำคาญให้กับผู้ร่วมเชียร์ รวมทั้งในโลกออนไลน์ยังมีการโจมตีเรื่องนี้อย่างหนัก จนหลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าทีมชาติไทยอาจถูกลงโทษจากคณะกรรมการฟีฟ่าได้

จนวันที่ 21 ธันวาคม 2559 ที่สน.หัวหมาก พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พร้อม พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ศุภชัจจ์ เปี่ยมมนัส ผกก.สส.บกน.4 พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน บก.สส.บกน.4 ฝ่าย และสืบสวน สน.หัวหมาก นำกำลังบุกยืด พลุแฟร์ จำนวนกว่า 1,950 อัน มาจากย่าน เชียงกง บางนา หลังทราบว่าเป็นร้านที่ขายให้กับกลุ่ม กลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทำงานกันอยู่ตลอดเวลา และได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่เราวางแผนกันเอาไว้ซึ่งได้ไปตรวจค้นร้านที่จำหน่ายพลุแฟลร์ให้กับกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์ เมื่อช่วงเวลา 16.00 น. ผลการตรวจค้นเราพบพลุแฟลร์ หรือพลุส่องสว่างที่ปรากฏอยู่ในภาพในวันที่ 17 ธ.ค.ซึ่งพลุเหล่านั้นมาจากร้านดังกล่าวทั้งสิ้น วันนี้สามารถยืดได้ 1,950 อันและก็มีการจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นผู้จำหน่ายพลุดังกล่าวให้กับกลุ่มที่ไปจุดที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาไว้ว่านำเข้ามา สั่งเข้ามา ผลิตมีซึ่ง ยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม โทษจำคุก 5 ปี ปรับ 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หลังจากนี้จะดำเนินการติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้จุดพลุอีกด้วย

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวต่อว่า อยากจะฝากถึงคนที่ไปเชียร์ทีมชาติไทยในการแข่งฟุตบอลเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทุกกลุ่มถือว่ามีความรักในการเชียร์ฟุตบอล แต่การที่ท่านเชียร์นั้นบางกลุ่มอาจจะเชียร์ในลักษณะที่มีผลกระทบ ประการแรกคือภาพลักษณ์ต่อบ้านเรา ประการที่ 2 ละเมิดต่อกฎหมาย ประการที่ 3 เราอาจจะถูกดำเนินการในด้านการปกครอง จากองค์กรที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟีฟ่า ตามคนที่ไม่เกี่ยวข้องและอยู่ในเหตุการณ์เราอาจจะแยกเป็น 3 กลุ่ม คนที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่ในเหตุการณ์, คนที่เกี่ยวข้องโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และคนที่เป็นแกนนำ ถ้ารู้ตัวก็ให้มามอบตัวหรือมาแสดงตัว ต่อเจ้าหน้าที่ที่ สน.หัวหมากได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปไม่นั้นเราก็จะดำเนินการต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย

ในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นก็เข้ามาพบพนักงานสอบสวนบ้างแล้ว แต่ละรายให้การได้เป็นประโยชน์มาก ส่วนนายประพจน์ ปานโพธิ์ทอง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 ซอยลุงเริ่ม ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กทม. แกนนำกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์ มีการติดต่อเข้ามาเห็นว่าขอเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้ แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ทั้งนี้ก็จะดำเนินการตามมาตราการ และได้แจ้งข้อหาต่อคนขายพลุแฟลร์แล้ว หากชุดจับกุมของ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยก็สามารถเปิดเผยรายชื่อได้เลย ส่วนแหล่งผลิตนั้นทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่ามีที่ใดบ้าง

เหตุการณ์กลุ่มแฟนบอลอุลตร้า ไทยแลนด์ จุดพลุแฟลร์ ในการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016

สมาคมฟุตบอลแถลงการณ์ ประณามการกระทำของคนบางกลุ่มที่จุดพลุแฟลร์

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกแถลงการณ์ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เรื่อง ประณามการกระทำของคนบางกลุ่มที่จุดพลุแฟลร์ ระบุว่า ตามที่ มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มได้กระทำการจุดพลุแฟลร์ ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2016 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559 จนทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเป็นการกระทำที่ผิดกฎข้อห้ามของฝ่ายจัดการแข่งขัน

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอประณามการกระทำของกลุ่มคนดังกล่าว ที่กระทำการทั้งๆ ที่ทราบกฎระเบียบข้อห้าม และกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ตัดสินปรับขั้นต้น 20,000 สวิตฟรัง หรือ ประมาณ 700,000 บาท และอาจถูกลงโทษห้ามจัดการแข่งขันในเกมเหย้า ห้ามแฟนบอลเข้าชมการแข่งขันในสนาม หรือถูกสั่งให้จัดการแข่งขันในสนามประเทศเป็นกลางแทน

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลกีฬาแห่งประเทศไทยฯ ได้ประสานขอความช่วยเหลือ ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รวมถึง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้ สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก และผู้เกี่ยวข้อง เร่งรัดติดตามสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอความร่วมมือแฟนบอลหรือประชาชนทั่วไป ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว หรือทราบเบาะแส มีข้อมูลของผู้กระทำความผิด สามารถส่งข้อมูลมาได้ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อาคารพงษ์สุภี ชั้น 3 เลขที่ 19 ซอยยาสูบ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. 10900 โทรศัพท์ : 02-272-2250 อีเมล์ : info@fathailand.org หรือ สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจหัวหมาก

วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

........................................................

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธ พ.ศ. 2490

มาตรา 4(4) “ดอกไม้เพลิง” หมายความรวมตลอดถึง พลุ ประทัด ประทัดลม และวัตถุอื่นใดอันคล้ายคลึงกัน

มาตรา 47 ห้ามมิให้ผู้ใดสั่ง นำเข้า หรือค้า ซึ่งดอกไม้เพลิง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ฐานความผิด การไม่ได้รับอนุญาตตาม ม.47 เป็นความผิดมาตรา 77 ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พงส.เปรียบเทียบปรับได้

กรณีฐานความผิดอื่นๆ กรณีเล่นดอกไม้เพลิง

- การเล่นดอกไม้เพลิง พลุ หรือประทัด ในที่สาธารณะหรือในงานรื่นเริง อาจมีความผิดฐาน “ทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน” ตาม ป.อาญา มาตรา 370 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท

- กรณีการเล่นประทัดหรือจุดพลุ โดยโยนใส่หรือจุดใส่บุคคลอื่น โดยเจตนา หากบุคคลดังกล่าวได้รับบาดเจ็บหรือบาดเจ็บสาหัส ผู้นั้นมีความผิดฐาน “ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ หรือได้รับอันตรายสาหัส” ตาม ป.อาญา มาตรา 295 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือ 297 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี

- กรณีการเล่นประทัดหรือจุดพลุ โดยโยนเล่นหรือจุดเล่น แต่ไปถูกคนอื่นได้รับบาดเจ็บหรือบาดเจ็บสาหัส โดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้นั้นมีความผิดฐาน “กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ หรือได้รับอันตราสาหัส” ตาม ป.อาญา มาตรา 300(สาหัส) หรือ 390 แล้วแต่กรณี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

----------------------------------------------------

ส.บอลยึดคืนพื้นที่อัฒจันทร์สกัดกลุ่ม’อุลตร้าไทยแลนด์’ เปิดให้เด็กนักเรียน นักศึกษาเข้าชมฟรี

และเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2559 ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย อาคารพงษ์สุภี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวของกับการแข่งขัน ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ, ฝ่ายรักษาความปลอดภัย รวมไปถึงไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ที่ดูแลการจำหน่ายบัตรเข้าชม มาประชุมพิเศษ เพื่อรับทราบข้อมูลและเตรียมหาทางแก้ไขกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ทางสมาคมมีความคิดที่จะยึดคืนพื้นที่ของอัฒจันทร์โซนใต้ทั้งหมด เพื่อจะไม่ให้กลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์ได้มีที่ยืนในสนามอีกต่อไป โดยส่วนของพื้นที่โซนใต้ ที่มีกว่า 5,000 ที่นั่งนั้น อาจจะเปิดให้กับนิสิต-นักศึกษา ได้เข้าชมฟรีแทน

บิ๊กอ๊อด กล่าวต่อว่า ตอนนี้ทางสมาคมฯ ต้องการตรวจสอบการจำหน่ายบัตรเข้าชมในส่วนนั้น เพื่อค้นหาความจริงว่าเป็นอย่างไร เท่าที่ได้รับฟังจากเจ้าหน้าที่มา กลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์นั้นมักจะทำการไล่แฟนบอลที่ไม่ใช่กลุ่มอุลตร้าออกจากพื้นที่ของพวกเขาด้วย

“เราทราบดีว่าจุดตรงนั้น ไม่ได้มีแต่แฟนบอลอุลตร้าเท่านั้น มีกลุ่มแฟนบอลที่เป็นส่วนดีอยู่ด้วยเช่นกัน ก็จะหาวิธีการที่ดีเพื่อแฟนบอลที่เป็นแฟนบอลที่ดีเช่นกัน”

บิ๊กอ๊อด กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องของการคัดกรองแฟนบอลที่จะเข้าสนามนั้น ก็ได้ทำกันอย่างดีแล้ว แต่ก็ยังมีหลุดรอดเข้าไปได้ ดังนั้นคงจะต้องมีการวางมาตรการกันใหม่ เช่นเดียวกับการที่มีรายงานว่ามีการส่งของจากภายนอกสนามเข้าไปนั้น ทางฝ่ายรักษาความปลอดภัยก็ต้องเตรียมวางแผนป้องกันเช่นกัน

นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวปิดท้ายว่า เรื่องของการเอาผิดผู้กระทำความผิดนั้น ต้องอยู่ที่เจ้าหน้าที่จะแจ้งมาว่ามีอะไรที่เป็นส่วนที่สมาคมต้องฟ้องร้องบ้าง อย่างในส่วนของสนามแข่งขันที่มีความเสียหาย ก็อยู่ในอำนาจหน้าที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่เป็นเจ้าของสนามจะเป็นผู้ร้อง ส่วนอื่นๆ ถ้าหากว่ามีแฟนบอลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ขอให้มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ได้ เพื่อที่จะได้ดำเนินการกับแฟนบอลที่ทำผิดอย่างถึง

เตรียมออกหมายจับคนจุดพลุแฟร์ในสนามรัชมังคลากีฬาสถานตามภาพ 2 คน

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี กองเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทยกลุ่มหนึ่ง จุดพลุแฟร์ในสนามรัชมังคลากีฬาสถาน ระหว่างการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ โดยระบุว่าตำรวจกำลังรวบรวมรายละเอียด เพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาล จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นบุคคลตามภาพที่ถือพลุแฟร์ ขณะถูกจุด ขณะที่อีก 7 คน อยู่ระหว่างการพิจารณาจากพยานหลักฐาน

ขณะเดียวกัน ประกาศให้บุคคลตามภาพ ทั้งหมด 9 ภาพ เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้รายละเอียดข้อเท็จจริงต่อพนักงานสอบสวนในเหตุการณ์ดังกล่าว  โดยทั้ง  9 คนตามภาพ มีทั้งคนที่ถือพลุแฟลร์ ที่มีผ้าโพกหัว แต่ไม่ปิดหน้า บางราย มีผ้าปิดหน้า แต่ไม่ได้โพกหัว และบางรายปิดหน้าตามิดชิดคล้ายหมวกคลุมศรีษะ ทั้งหมดยกมือและถือพลุแฟร์ที่จุดแล้ว

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่าการประกาศให้ทั้ง 9 คน ที่รู้ตัวว่าเป็นบุคคลในภาพ ก็เพื่อมาแสดงตัวและแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยระบุว่าส่วนตัวเชื่อมั่นว่า เป็นแฟนบอลที่สนับสนุนทีมชาติไทย เพียงแต่วิธีการแสดงออกดังกล่าว มีแนวโน้มที่จะผิดระเบียบของฟีฟ่า ซึ่งมีผลต่อทีมชาติไทยด้วย

นอกจากนี้  ยังระบุว่าการนำตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานมาเก็บรายละเอียดทั้งหมด ก็เพื่อให้ได้ความชัดเจนในการดำเนินคดี โดยฐานความผิดนั้นอาจแตกต่างกันไป เช่นความผิดฐานขัดคำสั่งคสช. ความผิดอาญาอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ความผิดทางอากาศ และเดือดร้อนรำคาญ หรือบางรายอาจเข้าข่ายมาตรา 220 กรณีวางเพลิง