หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ความลับจากแพทย์ผู้จ่ายยา…..แนะนำให้กินมะละกอสุก ด้วยเหตุผลนี้…

โพสท์โดย SpiderMeaw

มะละกอ เป็นแหล่งที่ดีของใยอาหารโดยเฉพาะเพคติน (ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้ตามกระบวนการที่ผู้เขียนเคยอธิบายไว้ในบทความก่อนหน้านี้) ในตำรายาไทยมักกล่าวว่า…

มะละกอ เป็นผลไม้พื้นเมืองที่ปลูกในประเทศแถบทะเลคาริเบียนไล่ไปจนถึงเม็กซิโก ปานามา และโคลัมเบีย มีผู้สันนิษฐานว่ามะละกอถูกนำเข้ามาปลูกในบ้านเราสมัยกรุงศรีอยุธยาโดยฝรั่งสักสัญชาติหนึ่ง ซึ่งคนไทยได้ให้การต้อนรับมะละกออย่างดีจนกลายเป็นผลไม้ยอดนิยมปลูกได้ทุกถิ่นของไทย

คนไทยส่วนใหญ่ไม่ว่ายากดีมีจนมักมีโอกาสกินผลไม้นี้ทั้งดิบและสุก

โดยมะละกอดิบมักถูกนำไปทำเป็นส้มตำและแกงส้ม ตลอดจนนำไปดองเค็มแล้วทำให้แห้งเป็นของกินเล่นซึ่งเป็นอันตรายต่อไตของผู้นิยมบริโภคประจำ ส่วนมะละกอสุกนั้นเป็นผลไม้ประจำงานเลี้ยงต่าง ๆ และมักเป็นสมาชิกสำคัญของผลไม้กระป๋องที่ติดฉลากว่า ผลไม้รวม (ซึ่งมักไม่พ้นมะละกอกึ่งสุก สับปะรดออกเปรี้ยว และองุ่นไทยผสมกันในน้ำเชื่อม)

มะละกอสุก มีสรรพคุณเป็นยาระบาย ซึ่งผู้เขียนได้พิสูจน์ความจริงนี้แล้วในสมัยเรียนระดับปริญญาตรี เนื่องจากผู้เขียนมักเป็นหวัดบ่อยจึงไปขอยาจากหน่วยอนามัยของมหาวิทยาลัยและได้ยาปฏิชีวนะ (หลายคนเรียกว่ายาแก้อักเสบ…ซึ่งผิด) มากิน โดยทุกครั้งที่กินมักเกิดอาการท้องผูก (เนื่องจากยาไปทำลายสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่) จึงแจ้งแก่แพทย์ผู้จ่ายยา ก็ได้รับคำแนะนำให้กินมะละกอสุก ซึ่งต่อมาเมื่อเรียนสูงขึ้นจึงทราบว่า เนื้อมะละกอนั้นมีใยอาหารซึ่งเป็นอาหาร (พรีไบโอติก) ของแบคทีเรียกลุ่มแลคโตแบซิลัส (โปรไบโอติก) ซึ่งเมื่อแบคทีเรียกลุ่มนี้เจริญมากขึ้นก็จะเข้าควบคุมสถานการณ์ทำให้ระบบขับถ่ายเข้าสู่ความเป็นปกติ

งานวิจัยหลายชิ้นกล่าวว่า มะละกอสุกนั้นเป็นอาหารที่ลดความเสี่ยงของมะเร็งหลายอวัยวะในร่างกาย เพราะเป็นผลไม้ที่อุดมทั้งพฤกษเคมีต่าง ๆ เช่น สารฟลาโวนอยด์ วิตามินต่าง ๆ ซึ่งมีเบต้าแคโรตีนเป็นตัวชูโรงสำคัญ ตามด้วยโฟเลต ไทอามีน (วิตามินบี 1) ไรโบฟลาวิน (วิตามินบี 2) ไนอาซิน (วิตามินบี 3) กรดแพนโทเทนิก (วิตามินบี 5) วิตามินซี ฯลฯ สำหรับแร่ธาตุที่สำคัญคือ โปแตสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม เป็นต้น ดังนั้นผู้นิยมกินมะละกอสุกจะมีเหงือกสวย (ปลอดภัยจากโรคลักปิดลักเปิดหรือเลือดออกตามไรฟันด้วยอิทธิพลของวิตามินซี) และผิวสวย

ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยได้ทุนทำวิจัยเกี่ยวกับอาหารไทยต้านพิษของสารก่อกลายพันธุ์ (ซึ่งสามารถแปลผลถึงการต้านมะเร็ง) จากสภาวิจัยแห่งชาติ อาหารจานที่ได้รับความสนใจมากที่สุดเนื่องจากผลการศึกษาพบว่า สามารถต้านสารพิษได้ดีในลำดับต้น ๆ คือ ส้มตำ (สูตรที่ใช้ศึกษาไม่ใส่ปูเค็ม เพราะปูมักมีเชื้อพยาธิ) ซึ่งก็ไม่น่าประหลาดใจ เพราะเมื่อพิจารณาจากใยอาหารจากมะละกอ พร้อมทั้งเครื่องเทศและสมุนไพรที่ใช้ปรุงส้มตำแล้ว ผู้เขียนสามารถระบุได้เลยว่า ส้มตำเป็นองครักษ์พิทักษ์มะเร็ง ดังนั้นผู้เขียนจึงมักแนะนำผู้ที่นิยมกินอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น อาหารปิ้ง ย่าง รมควัน เนื้อสัตว์ต้มตุ๋นนาน และเนื้อหมักต่าง ๆ ให้กินอาหารนั้น ๆ คู่ไปกับส้มตำ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากสาว ๆ ที่กินส้มตำสัปดาห์ละเจ็ดวัน วันละสามมื้อ

ผู้ที่กินมะละกอสุกเป็นของหวานหลังมื้ออาหารมักมีภูมิต้านทานดี ไม่ค่อยป่วยไข้เนื่องจากโรคติดเชื้อ เพราะร่างกายเราเปลี่ยนเบตาแคโรทีนที่ได้จากมะละกอสุกเป็นวิตามินเอ ประกอบกับเนื้อมะละกอมีวิตามินซีสูง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานร่วมกันกับโปรตีนและธาตุสังกะสีจากเนื้อสัตว์ในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งวิตามินเอที่แปลงมาจากเบตาแคโรตีนนั้นสามารถป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งทำให้ผู้กินมะละกอสุกประจำมีดวงตาที่สดใส

สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับมะละกออีกประการคือ ยางซึ่งได้จากผลดิบและลำต้นนั้น ได้ถูกนำไปใช้หมักเนื้อสัตว์ที่เหนียวมากให้เหนียวน้อยลงจนในบางครั้งผู้สูงอายุสามารถกัดได้นุ่มปาก เนื่องจากในยางมะละกอนั้นมีเอนไซม์ชนิดหนึ่งชื่อว่า ปาเปน (Papain) ช่วยย่อยโปรตีนบางส่วนในเนื้อสัตว์ก่อนถูกนำไปปรุงให้สุก ดังนั้นผู้ที่กินมะละกอดิบในลักษณะส้มตำจึงได้ยางนี้ไปช่วยในการย่อยเนื้อสัตว์ในทางเดินอาหาร อย่างไรก็ดีการได้รับยางมะละกอที่อยู่ในมะละกอดิบเข้าปากนั้นเป็นดาบสองคม เพราะเนื้อยางนั้นน่าจะมีความเป็นพิษแฝงอยู่ โดยพิษนั้นเกิดขึ้นเฉพาะกับสาวที่กำลังตั้งท้อง

ข้อมูล Healthtoday Thailand – รศ.ดร.แก้ว กังสดาลอำไพ – นักพิษวิทยาทางอาหารและโภชนาการ

ขอบคุณที่มา:http://www.naarn.com/11918/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
SpiderMeaw's profile


โพสท์โดย: SpiderMeaw
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เลขเด็ด "ม้าสีหมอก" งวดวันที่ 16 กันยายน 68 วิ่งมาให้โชคแล้ว..รีบส่องด่วน!งานเข้า! “รอนชิต” อดีตเด็กทุนไทย โพสต์พลาดรูปฐานทหารเขมรจากพระเอกขวัญใจยุค 90 วันนี้ "เล็ก ไอศูรย์" ในวัยเลข 6 หล่อไม่สร่าง!เหตุผลที่ทำให้ไม่ควร เปิดไฟนอน ต่อให้กลัวแค่ไหนก็ตาม เพราะเสี่ยงให้เกิดโรคอ้วน โรคอัลไซเมอร์สาวอเมริกันพาครอบครัวตะลุยเมืองไทย 6 สัปดาห์เต็ม สรุป 5 สิ่งที่โคตรตรึงใจ อ่านแล้วอยากเก็บกระเป๋าออกเดินทางทันทีผู้ชายหุ่นหมี ลุคแด๊ดดี้ มาแรง เหตุผลทำไมสาว ๆ ชอบหนุ่มหมี7 วิธีลดน้ำหนักเร่งด่วน ไม่ต้องอดอาหารก็เห็นผลเพื่อนสนิท “ยิ่งคบ ยิ่งคล้าย” คนเป็นที่เพื่อนสนิทมักมียีนที่คล้ายกันฮือฮา! ทหาร-ตร. ปัสสาวะริมรั้วพระราชวังกัมพูชา โซเชียลถล่มยับกัมพูชาสงสัย ข้อตกลง 7 ฉบับ ที่ไทยเคยลงนามจะช่วย ยังมีอยู่หรือไม่? หลัง “แพทองธาร” ถูกถอดออกจากตำแหน่งนายกรัฐมาตรีทายนิสัย แบบทดสอบทายใจจากญี่ปุ่น ยานพาหนะที่อยากขึ้นกับคู่รัก สามารถบ่งบอกกับดักในความสัมพันธ์อึ้งทั้งประเทศ! เปิดสมบัติ “อนุทิน” หัวหน้าภูมิใจไทย รวยแค่ไหนมาดู
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
92เมืองในญี่ปุ่นเตรียมเก็บภาษีที่พัก แก้ปัญหานักท่องเที่ยวล้นเฉลยแล้ว! เมฆรูปคนเหนือยอดเขาหยกซานคืออะไร? ปรากฏการณ์ "Altocumulus" ที่นักท่องเที่ยวแห่ชมเลขเด็ด "หวยปฏิทินจีน" งวดวันที่ 16 กันยายน 68..คอหวยห้ามพลาด!ไขปริศนา! ทำไมราคาขนมปังในเกาหลีใต้ถึงพุ่งสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก?กองทัพกัมพูชาพาคณะผู้ช่วยทูตทหารอาเซียน ดูจุดที่ทหารไทยขึงรั้วลวดหนามหีบเพลงงานเข้า! “รอนชิต” อดีตเด็กทุนไทย โพสต์พลาดรูปฐานทหารเขมร
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
"พุทธ" แฉ "เจน ญาณทิพย์" ใช้ "กรามหมู" เป็นของขลัง..อ้างมีเทวดานิมิตบอกเฉลยแล้ว! เมฆรูปคนเหนือยอดเขาหยกซานคืออะไร? ปรากฏการณ์ "Altocumulus" ที่นักท่องเที่ยวแห่ชมไขปริศนา! ทำไมราคาขนมปังในเกาหลีใต้ถึงพุ่งสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก?งานเข้า! “รอนชิต” อดีตเด็กทุนไทย โพสต์พลาดรูปฐานทหารเขมร
ตั้งกระทู้ใหม่