Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageราคาทองคำ
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ความลับจากแพทย์ผู้จ่ายยา…..แนะนำให้กินมะละกอสุก ด้วยเหตุผลนี้…

โพสท์โดย SpiderMeaw

มะละกอ เป็นแหล่งที่ดีของใยอาหารโดยเฉพาะเพคติน (ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้ตามกระบวนการที่ผู้เขียนเคยอธิบายไว้ในบทความก่อนหน้านี้) ในตำรายาไทยมักกล่าวว่า…

มะละกอ เป็นผลไม้พื้นเมืองที่ปลูกในประเทศแถบทะเลคาริเบียนไล่ไปจนถึงเม็กซิโก ปานามา และโคลัมเบีย มีผู้สันนิษฐานว่ามะละกอถูกนำเข้ามาปลูกในบ้านเราสมัยกรุงศรีอยุธยาโดยฝรั่งสักสัญชาติหนึ่ง ซึ่งคนไทยได้ให้การต้อนรับมะละกออย่างดีจนกลายเป็นผลไม้ยอดนิยมปลูกได้ทุกถิ่นของไทย

คนไทยส่วนใหญ่ไม่ว่ายากดีมีจนมักมีโอกาสกินผลไม้นี้ทั้งดิบและสุก

โดยมะละกอดิบมักถูกนำไปทำเป็นส้มตำและแกงส้ม ตลอดจนนำไปดองเค็มแล้วทำให้แห้งเป็นของกินเล่นซึ่งเป็นอันตรายต่อไตของผู้นิยมบริโภคประจำ ส่วนมะละกอสุกนั้นเป็นผลไม้ประจำงานเลี้ยงต่าง ๆ และมักเป็นสมาชิกสำคัญของผลไม้กระป๋องที่ติดฉลากว่า ผลไม้รวม (ซึ่งมักไม่พ้นมะละกอกึ่งสุก สับปะรดออกเปรี้ยว และองุ่นไทยผสมกันในน้ำเชื่อม)

มะละกอสุก มีสรรพคุณเป็นยาระบาย ซึ่งผู้เขียนได้พิสูจน์ความจริงนี้แล้วในสมัยเรียนระดับปริญญาตรี เนื่องจากผู้เขียนมักเป็นหวัดบ่อยจึงไปขอยาจากหน่วยอนามัยของมหาวิทยาลัยและได้ยาปฏิชีวนะ (หลายคนเรียกว่ายาแก้อักเสบ…ซึ่งผิด) มากิน โดยทุกครั้งที่กินมักเกิดอาการท้องผูก (เนื่องจากยาไปทำลายสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่) จึงแจ้งแก่แพทย์ผู้จ่ายยา ก็ได้รับคำแนะนำให้กินมะละกอสุก ซึ่งต่อมาเมื่อเรียนสูงขึ้นจึงทราบว่า เนื้อมะละกอนั้นมีใยอาหารซึ่งเป็นอาหาร (พรีไบโอติก) ของแบคทีเรียกลุ่มแลคโตแบซิลัส (โปรไบโอติก) ซึ่งเมื่อแบคทีเรียกลุ่มนี้เจริญมากขึ้นก็จะเข้าควบคุมสถานการณ์ทำให้ระบบขับถ่ายเข้าสู่ความเป็นปกติ

งานวิจัยหลายชิ้นกล่าวว่า มะละกอสุกนั้นเป็นอาหารที่ลดความเสี่ยงของมะเร็งหลายอวัยวะในร่างกาย เพราะเป็นผลไม้ที่อุดมทั้งพฤกษเคมีต่าง ๆ เช่น สารฟลาโวนอยด์ วิตามินต่าง ๆ ซึ่งมีเบต้าแคโรตีนเป็นตัวชูโรงสำคัญ ตามด้วยโฟเลต ไทอามีน (วิตามินบี 1) ไรโบฟลาวิน (วิตามินบี 2) ไนอาซิน (วิตามินบี 3) กรดแพนโทเทนิก (วิตามินบี 5) วิตามินซี ฯลฯ สำหรับแร่ธาตุที่สำคัญคือ โปแตสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม เป็นต้น ดังนั้นผู้นิยมกินมะละกอสุกจะมีเหงือกสวย (ปลอดภัยจากโรคลักปิดลักเปิดหรือเลือดออกตามไรฟันด้วยอิทธิพลของวิตามินซี) และผิวสวย

ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยได้ทุนทำวิจัยเกี่ยวกับอาหารไทยต้านพิษของสารก่อกลายพันธุ์ (ซึ่งสามารถแปลผลถึงการต้านมะเร็ง) จากสภาวิจัยแห่งชาติ อาหารจานที่ได้รับความสนใจมากที่สุดเนื่องจากผลการศึกษาพบว่า สามารถต้านสารพิษได้ดีในลำดับต้น ๆ คือ ส้มตำ (สูตรที่ใช้ศึกษาไม่ใส่ปูเค็ม เพราะปูมักมีเชื้อพยาธิ) ซึ่งก็ไม่น่าประหลาดใจ เพราะเมื่อพิจารณาจากใยอาหารจากมะละกอ พร้อมทั้งเครื่องเทศและสมุนไพรที่ใช้ปรุงส้มตำแล้ว ผู้เขียนสามารถระบุได้เลยว่า ส้มตำเป็นองครักษ์พิทักษ์มะเร็ง ดังนั้นผู้เขียนจึงมักแนะนำผู้ที่นิยมกินอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น อาหารปิ้ง ย่าง รมควัน เนื้อสัตว์ต้มตุ๋นนาน และเนื้อหมักต่าง ๆ ให้กินอาหารนั้น ๆ คู่ไปกับส้มตำ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากสาว ๆ ที่กินส้มตำสัปดาห์ละเจ็ดวัน วันละสามมื้อ

ผู้ที่กินมะละกอสุกเป็นของหวานหลังมื้ออาหารมักมีภูมิต้านทานดี ไม่ค่อยป่วยไข้เนื่องจากโรคติดเชื้อ เพราะร่างกายเราเปลี่ยนเบตาแคโรทีนที่ได้จากมะละกอสุกเป็นวิตามินเอ ประกอบกับเนื้อมะละกอมีวิตามินซีสูง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานร่วมกันกับโปรตีนและธาตุสังกะสีจากเนื้อสัตว์ในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งวิตามินเอที่แปลงมาจากเบตาแคโรตีนนั้นสามารถป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งทำให้ผู้กินมะละกอสุกประจำมีดวงตาที่สดใส

สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับมะละกออีกประการคือ ยางซึ่งได้จากผลดิบและลำต้นนั้น ได้ถูกนำไปใช้หมักเนื้อสัตว์ที่เหนียวมากให้เหนียวน้อยลงจนในบางครั้งผู้สูงอายุสามารถกัดได้นุ่มปาก เนื่องจากในยางมะละกอนั้นมีเอนไซม์ชนิดหนึ่งชื่อว่า ปาเปน (Papain) ช่วยย่อยโปรตีนบางส่วนในเนื้อสัตว์ก่อนถูกนำไปปรุงให้สุก ดังนั้นผู้ที่กินมะละกอดิบในลักษณะส้มตำจึงได้ยางนี้ไปช่วยในการย่อยเนื้อสัตว์ในทางเดินอาหาร อย่างไรก็ดีการได้รับยางมะละกอที่อยู่ในมะละกอดิบเข้าปากนั้นเป็นดาบสองคม เพราะเนื้อยางนั้นน่าจะมีความเป็นพิษแฝงอยู่ โดยพิษนั้นเกิดขึ้นเฉพาะกับสาวที่กำลังตั้งท้อง

ข้อมูล Healthtoday Thailand – รศ.ดร.แก้ว กังสดาลอำไพ – นักพิษวิทยาทางอาหารและโภชนาการ

ขอบคุณที่มา:http://www.naarn.com/11918/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
SpiderMeaw's profile


โพสท์โดย: SpiderMeaw
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
“หอยช้าง” แปซิฟิก ยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเล! ยาวได้ถึง 1.8 เมตร อายุยืนทะลุ 100 ปีเลขเด็ด เลขมาเเรง เลขดัง "รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.21" งวดวันที่ 1 กรกฎาคม 2568เมื่อข่าวลือกลายเป็นวิกฤต—ย้อนรำลึกเหตุการณ์ปี 2546 จาก “กบ สุวนันท์” ถึงความรุนแรงระดับชาติย้อนวันวานปี 2517 ร้านขายผลไม้ย่านบางรัก จัดเรียงผลไม้อย่างปราณีต งดงามจับใจห้ามพลาด! ประกาศใหม่ "ขายเหล้า-เบียร์" ได้แค่ช่วงเวลานี้เท่านั้น มีผลแล้ว 27 มิ.ย. 68หญิงวัย 41 ปีผ่าตัดพบ "นิ่วถุงน้ำดี" สีทองนับร้อยก้อน เตือนภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้ามมุมมองเกี่ยวกับบทบาทของ พลเอก “เตียบัญ” คนกัมพูชาเชื้อสายไทยต่อความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาคลิปเด็กน้อยเล่นกับงูเหลือมยักษ์กำลังเป็นไวรัล"เคธี่ เพอร์รี่" เลิกกับ "ออร์แลนโด้ บลูม" แล้ว!!ค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันหนึ่งในเขตประเทศไทยอีก 7 วันน้ำมันหมดประเทศ!” ฮุนเซนบินไปสิงคโปร์หวังขอซื้อ เจอไล่กลับ150 นักปั่นไทยทัวร์ “ปราสาทตาเหมือนทม” เขมรดิ้นพล่าน! ด่านไทยอยู่ดีๆ ทำไมต้องไปขออนุญาตใคร?
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชาวเน็ตไทยสุดฮา! เปลี่ยน "ฮุนเซน" เป็นพรีเซนเตอร์เฉาก๊วย..หลายคนอดขำไม่ได้เมื่อข่าวลือกลายเป็นวิกฤต—ย้อนรำลึกเหตุการณ์ปี 2546 จาก “กบ สุวนันท์” ถึงความรุนแรงระดับชาติ“หอยช้าง” แปซิฟิก ยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเล! ยาวได้ถึง 1.8 เมตร อายุยืนทะลุ 100 ปีเครื่องบินทิ้งระเบิด ที่ทันสมัยที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ชาวเน็ตไทยสุดฮา! เปลี่ยน "ฮุนเซน" เป็นพรีเซนเตอร์เฉาก๊วย..หลายคนอดขำไม่ได้สงครามภาษีของทรัมป์กระทบไนกี้หนัก! ต้นทุนเพิ่มขึ้น 1 พันล้านดอลลาร์คณะกรรมการฯ มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.75 ต่อปีนายกอินเดีย เตรียมเดินทางเยือน 5 ประเทศ
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน LinePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageราคาทองคำ
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง