ทักษิณส่งทนายแจ้งความเอาผิดนสพ.ไทยโพสต์กล่าวหาเป็น“แก๊งล้มเจ้า-ชูระบอบสาธารณรัฐ”
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ธันวาคม 2559 ที่สถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน นายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความผู้รับมอบอำนาจ จากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับบริษัท สารสู่อนาคต จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ และเว็บไซต์ http://www.thaipost.net นายชูเกียรติ ยิ้มประเสริฐ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาและเผยแพร่ข้อความและผู้มีนามปากกาว่า “แซมซาย” ซึ่งเป็นผู้เขียนบทความ รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
กรณีที่หนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ดังกล่าวได้ลงข้อความในคอลัมน์ บันทึกหน้า 4 ซึ่งเขียนโดย แซมซาย กล่าวหา นายทักษิณ ชินวัตร ว่าเป็นผู้สั่งการให้“แก๊งล้มเจ้า – ชูระบอบสาธารณรัฐ”เคลื่อนไหวโจมตีสถาบัน
นายชุมสาย กล่าวว่า การที่หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์และเว็บไซต์ดังกล่าวได้นำข้อความอันเป็นเท็จ มาลงโฆษณาเผยแพร่กล่าวหาว่า อดีตนายกฯทักษิณ เป็นผู้สั่งการให้มีการโจมตีใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งที่ความจริงท่านอดีตนายกฯทักษิณ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการกระทำของกลุ่มบุคคลเหล่านั้น และท่านก็เป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันมาตลอด
ทั้งนี้การกล่าวหาเช่นนี้ จึงถือเป็นการกล่าวหาที่รุนแรงมาก ทั้งที่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพเทิดทูนของประชาชนทั่วไป และเป็นสิ่งสูงสุดที่ผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมีการ นำเรื่องที่ปราศจากมูลความจริงและเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาลงโฆษณาเผยแพร่ ในลักษณะดังกล่าว
นายชุมสาย กล่าวอีกว่า ตนจึงมาร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินคดีกับบุคคลต่างๆ ข้างต้น ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328 และความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) (2) (3) และ (5)
เบื้อหลังก่อนแจ้งความ
เว็บไซต์ ทีนิวส์ รายงานเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2559 ว่า นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทยได้โพสท์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว "Watana Muangsook" โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
"ทักษิณ...โดนอีกแล้ว"
นายกทักษิณมีความไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง กรณีคอลัมน์ "บันทึกหน้า 4" ของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ฉบับวันที่ 7 ธันวาคม 2559 พาดพิงกล่าวหา "นายใหญ่ดูไบ" กับสถาบันเบื้องสูงซึ่งผมอ่านแล้วกราบเรียนไปว่า ท่านไม่มีความจำเป็นต้องแก้ตัว เพราะเป็นมุกเดิมๆ ที่เคยใช้ทำลายท่านและฝ่ายตรงข้ามตลอดมา วิธีการแบบนี้จึงไม่น่าจะใช้ได้ผลอีก รวมทั้งสื่อที่เผยแพร่คือสื่อที่เชียร์รัฐบาลแต่อยู่ตรงข้ามท่านกับพวกผม
ส่วนสำนักข่าวทีนิวส์ที่นำมาขยายต่อทุกคนก็ทราบว่าใครเป็นเจ้าของและเกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่ม กปปส. ในขณะที่สื่ออื่นๆ ที่มีความเป็นกลางซึ่งก็ล้วนแต่จงรักภักดี กลับไม่มีใครนำเสนอทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบต่อสถาบันและความมั่นคงของชาติ จึงเป็นข้อพิสูจน์ที่สาธารณชนย่อมทราบดีว่าเรื่องนี้ไม่มีมูลโดยสิ้นเชิง
ส่วนผู้เขียนและหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์คือผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา กล่าวคือ ข้อความที่พาดพิงถึงการเปลี่ยนแปลงรัชกาลและการแต่งตั้งองคมนตรีอันเป็นพระราชอำนาจ เป็นความผิดตามมาตรา 112 ส่วนข้อความที่กล่าวหาว่า "นายใหญ่ดูไบ" ซึ่งคนทั่วไปทราบว่าหมายถึงนายกทักษิณว่าเป็นผู้เบื้องหลังแก๊งล้มเจ้า-ชูระบอบสาธารณรัฐ เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามมาตรา 328 และ ข้อความทั้งหมดรวมทั้งกล่าวหาว่ารัฐบาล สปป. ลาวเป็นผู้ให้แหล่งพักพิงผู้กระทำผิด ถือเป็นความเท็จและข่าวสารที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ รวมทั้งหมิ่นประมาทบุคคลอื่น ตามข้อ 3 (1) และ (2) ของประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 และประกาศ คสช. ฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557
สำหรับผู้ที่นำไปโพสต์ต่อจะมีความผิดตามมาตรา 14 ของกฎหมายคอมพิวเตอร์ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แนะให้มอบอำนาจทนายไปดำเนินคดี
ผมแนะนำท่านว่า ความผิดฐานหมิ่นประมาทเป็นความผิดต่อส่วนตัว ท่านควรมอบอำนาจให้ทนายความไปร้องทุกข์ดำเนินคดี ส่วนเรื่องที่นำท่านมาพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูงนั้นเป็นความผิดอาญาแผ่นดินจึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการ ซึ่งผมเห็นเป็นโอกาสดีที่จะพิสูจน์ว่ารัฐบาลจะรักษากฎหมายและกล้าที่จะดำเนินคดีกับสื่อที่เป็นพวกตัวเองหรือไม่ หรือจะเลือกดำเนินคดีเฉพาะบางกลุ่มที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล ที่สำคัญเป็นการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับสถาบันที่ ผบ.ทบ. เพิ่งออกมาคำรามว่าจะจัดการอย่างไม่ไว้หน้า ข้อกฎหมายและประกาศต่างๆ ผมแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว
ถ้ามัวแต่เอาเวลาราชการไปเตะตะกร้อหรือตีแบดโชว์ไปวันๆ ก็ถือเป็นวิบากกรรมของคนไทยแล้วกัน