โพล CNN/ORC พบอเมริกัน 8 ใน 10 เห็นว่าสหรัฐแตกแยกแบบร้าวลึกหลังเลือกตั้ง-ไม่พอใจระบบประชาธิปไตยที่เป็นอยู่
ผลสำรวจ CNN คนอเมริกัน 8 ใน 10 คนเห็นว่าหลังการเลือกตั้งสังคมอเมริกันแตกแยกอย่างร้าวลึกในหลายประเด็น รวมทั้ง 51 % เห็นว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญจัดระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐใหม่ไม่เอา Electoral College ทั้งทรัมพ์และฮิลลารีได้รับความนิยมน้อยลง มากกว่า 50 % ไม่พอใจระบบประชาธิปไตยที่เป็นอยู่
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2016 โพลสำนักข่าว CNN/ORC ที่จัดทำระหว่างวันที่ 17-20 พฤศจิกายนและนำเสนอวันที่ 27 พฤศจิกายนด้วยการสำรวจสุ่มตัวอย่าง 1,003 ผู้ใหญ่ทั่วประเทศ โพลเสีย +/- 3 % และรายงานโดย เจนนิเฟอร์ อะกีสต้า ผู้อำนวยการโพลของสำนักข่าว CNN
รายงานระบุว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2016 ซึ่งผู้แทนของ 2 พรรคที่คนชอบน้อยที่สุดลงชิงชัยกันพบจากการสำรวจว่าคนอเมริกัน 8 ใน 10 คนเห็นว่าสหรัฐเกิดความแตกแยกอย่างร้าวลึก ( more deeply divided )ในปัญหาใหญ่ๆของประเทศมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งมากกว่า 50 % ไม่พอใจระบบประชาธิปไตยที่เป็นอยู่ในสหรัฐ
แม้กระทั่งในหัวข้อที่ว่าพรรคการเมืองเดียว (รีพับลิกัน)สามารถควบคุมได้ทั้งทำเนียบขาวและสภาคองเกรสนั้นถือว่าดีหรือไม่ดีสำหรับประเทศ โดย 49 % ของทั้งสองพรรคมีคำถามเช่นกัน
คนอเมริกัน 8 ใน 10 คนยังเห็นว่าพรรครีพับลิกันสมควรที่จะนำนโยบายของพรรคเดโมแครตเข้าไปร่วมด้วยก่อนที่จะผ่านร่างกฎหมายใดๆในสภาคองเกรสไม่ใช่นำนโยบายของพรรครีพับลิกันเพียงพรรคเดียวไปออกเป็นกฎหมาย
ความเห็นต่อการนำนโยบายมาร่วมมือกัน
โพลต้องการเห็นกลุ่มใหม่ๆที่สนับสนุนนายดอนัลด์ ทรัมพ์ มากกว่ากลุ่มที่สนับสนุนอยู่แล้ว สาเหตุเพราะแม้นายทรัมพ์จะคว้าชัย Electoral College แต่เขาก็พ่ายแพ้ใน Popular votes
ในจำนวนนี้น้อยกว่า 40 % เห็นว่าชัยชนะของนายทรัมพ์จะทำให้เขานำนโยบายที่หาเสียงไว้มาดำเนินการตามที่ผู้ลงคะแนนเสียงให้เขาช่วงรณรงค์หาเสียง 53 % เห็นว่าเมื่อเขาไม่ชนะใน Popular votes ควรที่จะเก็บบางนโยบายไว้เพื่อขอรับการสนับสนุนจากผู้ลงคะแนนเสียงกลุ่มใหม่ที่จะให้การสนับสนุนเขา
เมื่อถามว่าควรนำนโยบายของพรรคเดโมแครตมาร่วมด้วยเหมือนคราวที่พรรคเดโมแครตชนะในปี 2008 ทั้งเข้าไปควบคุมทำเนียบขาวและสภาคองเกรสหรือไม่ คนรีพับลิกัน 55 % เห็นด้วย ในปี 2008 คนพรรคเดโมแครตเห็นด้วย 74 % ที่จะนำนโยบายของพรรครีพับลิกันมารวมด้วย
ระบบประชาธิปไตยในสหรัฐ
ในคืนวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผลการเลือกตั้งสร้างความประหลาดใจไปทั่ว(เพราะนายทรัมพ์ชนะ) คนพรรคเดโมแครตไม่พอใจในระบบประชาธิปไตยของสหรัฐที่เป็นอยู่ (เดโมแครต 63 % ไม่พอใจ ,รีพับลิกันไม่พอใจ 47 %) ขณะที่แกนนำพรรครีพับลิกันไม่พอใจประชาธิปไตยมากกว่าคนของ GOP โดยรวม
เมื่อสอบถามไปถึงชาวคริสต์ผิวขาว( white evangelicals ) 60 % ไม่พอใจ ขณะที่ 62 % ของคนอเมริกันในชนบทก็ไม่พอใจ 60% สำหรับคนผิวขาวที่ไม่ได้เรียนระดับคอลเลจ(กลุ่มสนับสนุนนายทรัมพ์) 61 % ไม่พอใจขระที่กลุ่มที่เรียนจบปริญญา 52 % ไม่พอใจ
สังคมอเมริกันแตกแยกมาก
เมื่อสอบถามถึงความเห็นของสังคมอเมริกันเรื่องความแตกแยกและเห็นต่างกันในปัญหาต่างๆนั้นเฉลี่ย 85 % ของการสำรวจทั้งหมดมองว่าประเทศแตกแยกมากขึ้น โดยแยกเป็นกลุ่มๆดังนี้
86 % ของกลุ่มอิสระไม่สังกัดพรรคเห็นว่าสังคมแตกแยกมากขึ้น
85 % ของคนพรรครีพับลิกันเห็นว่าสังคมแตกแยกมากขึ้น
84 % ของคนพรรคเดโมแครตเห็นว่าสังคมแตกแยกมากขึ้น
ความเห็นดังกล่าวมากกว่าผลการเลือกตั้งปี 2000 (ที่จอร์จ บุช ชนะ อัล กอร์)โดยบุชชนะ Electoral College แต่ก็พ่ายแพ้ใน Popular votes ซึ่งในปีนั้น 64 % เห็นว่าสังคมอเมริกันแตกแยกกันมาก
คนอเมริกัน 8 ใน 10 คนที่เห็นว่าสังคมแตกแยกนั้นเป็นทั้งกลุ่มคนแต่ละเพศ,เชื้อชาติ,อายุและการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถามถึงอุดมคติ 91 % ของกลุ่มเสรีนิยมเห็นว่าสังคมแตกแยก ในขณะที่กลุ่มอนุรักษ์นิยม 80 % เห็นเหมือนกัน
ความเห็นต่อผู้นำรีพับลิกันในสภาคองเกรส
เมื่สอบถามความเห็นของผู้นำพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสว่านิยมหรือไม่นิยม
นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้รับความนิยม 47 % ไม่ได้รับความนิยม 35 %
นายมิทช์ แมคคอนแนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา ได้รับความนิยม 25 % ไม่ได้รับความนิยม 39 %
แต่เมื่อถามเฉพาะคนของพรรครีพับลิกันนายพอล ไรอัน ได้มากกว่านายแมคคอนเแนล 8 % คือ 48 % ต่อ 40 %
ขณะที่โพลก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ พบว่านายดอนัลด์ ทรัมพ์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐได้รับความนิยม 47 % ไม่ได้รับความนิยม 50 %
การแก้ไขรัฐธรรมนูญสหรัฐ
เมื่อสอบถามถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญสหรัฐเพื่อจัดระบบเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ 51 % เห็นว่าควรแก้ไข ส่วนอีก 44 เห็นว่าควรคงระบบเดิมไว้ (การเลือกตั้งโดยทั่วไปของสหรัฐใช้ระบบ Popular votes ยกเว้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะมี Electoral votes เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย รัฐที่ผู้สมัครคนใดได้ชัยชนะก็จะรับ Electoral votes ไปทั้งหมดเรียกว่า winner-take-all)
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2000 ที่นายจอร์จ บุช ชนะนายอัล กอร์ ก็มีคำถามจากโพลเช่นกันหลังจากที่นายกอร์ชนะป๊อบปูลา โหวต โดยผู้ตอบคำถามเห็นว่าควรเปลี่ยนระบบ 59 % ส่วน 37 % เห็นว่าควรคงระบบเลือกตั้ง Electoral votes ไว้
สอบถามความเห็นกรณีที่นางฮิลลารี คลินตัน ชนะป๊อบปูลา โหวตในปี 2016 พบดังนี้ โดยเฉลี่ย 40 % ให้การสนับสนุนฮิลลารี 57 % ไม่สนับสนุนเธอ เมื่อสอบถามถึงคนเดโมแครตให้การสนับสนุนเธอ 79 % หรือลดลงจาก 86 % ที่ให้การสนับสนุนเมื่อเดือนตุลาคม
สังคมอเมริกันในช่วงของการหาเสียงที่ผ่านมาทั้งนายดอนัลด์ ทรัมพ์ และนางฮิลลารี คลินตัน มีความแตกต่างกันจนทำให้สังคมอเมริกันแตกแยกมากขึ้นทั้งปัญหาที่ตำรวจถูกประท้วงเมื่อเข้าไปยิงคนผิวดำเสียชีวิตเกิดขจึ้นหลายระลอก,กลุ่มขวาจัดที่เรียกว่า alt-right groups ได้รับความนิยมมากขึ้น,การเสนอให้คนมุสลิมในสหรัฐลงทะเบียน,การจำกัดจำนวนไม่ให้คนอพยพเข้าสู่สหรัฐ,การปราบปรามผู้อยู่อย่างผิดกฎหมาย ฯลฯ