ผลงานจิตรกรรม จมปลักรอโผล่พ้น 2 ชนะเลิศการประกวดจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 7 ประจำปี 2559

ธนาคารยูโอบี (ไทย) มอบรางวัลชนะเลิศงานประกวดจิตรกรรมยูโอบี ประจำปี 2559 ประเภทศิลปินอาชีพ แก่นายจงจิตร มูลมาตย์ จากผลงานที่มีชื่อว่า “จมปลักรอโผล่พ้น 2” นำเสนอผลงานผ่านแนวคิดการหลุดพ้นจากความทุกข์ ตามหลักพุทธศาสนา พร้อมเป็นตัวแทนเข้าแข่งขัน UOB Southeast  Asian Painting of the Year ณ ประเทศสิงคโปร์

นายปีเตอร์ ฟู กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารยูโอบี ให้ความสำคัญของผู้รังสรรค์ผลงานศิลปะ และต้องการเชิดชูคุณค่าของศิลปิน โดยจัดการประกวด จิตรกรรมยูโอบี หรือ UOB Painting of the Year  ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2525 ในประเทศสิงคโปร์ ตลอดระยะเวลา 34 ปีที่ผ่านมา ได้ส่งเสริมผลงานจิตรกรรมจากฝีมือศิลปินอันทรงคุณค่า นับเป็นหนึ่งในการประกวดที่ทรงเกียรติที่สุดของภูมิภาคอาเซียนและได้เริ่มขยายการประกวดมายังประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2553 ซึ่งในปีนี้ก็ได้เปิดโอกาสให้ศิลปินที่พำนักอยู่ในประเทศไทยได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้อีกครั้ง โดยปีนี้มุ่งเน้นให้ศิลปินให้ความสำคัญของอารมณ์และความรู้สึกในศิลปะ โดยเฉพาะพลังของศิลปะในการกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกของผู้ชม อันจะยกระดับจิตวิญญาณของมนุษย์ สร้างแรงบันดาลใจและเพิ่มความชื่นชมในงานศิลปะ โดยผลงานจิตรกรรมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทศิลปินอาชีพ ได้แก่ นายจงจิตร มูลมาตย์ อายุ 36 ปี ซึ่งผลงานได้สื่อให้เห็นถึงภาพสะท้อนการควบคุมจิตให้อยู่เหนือสภาวะของกิเลสที่ครอบงำ ถ้าเรานำจิตให้อยู่เหนือกิเลสเหล่านี้ได้ ก็จะประสบกับความสุขที่แท้จริง เปรียบเช่นดั่งบัวที่โผล่พ้นน้ำแล้ว ด้วยเทคนิคสีน้ำมันบนผ้าใบ 

นายจงจิตร มูลมาตย์ พูดถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ว่า “เริ่มจากสิ่งที่ได้สัมผัสและพบเจอในชีวิตประจำวันว่า กิเลสและความทุกข์ล้วนเกิดขึ้นในตัวเองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก ความคาดหวังหรือความต้องการ จะต้องมีส่วนที่ต้องพบเจอกับความทุกข์ ไม่ว่าท้ายที่สุดจะสมหวังหรือผิดหวัง ดังนั้นเราเองต้องควบคุมความรู้สึก ต้องข่มใจให้อยู่เหนือความรู้สึกทุกข์และกิเลสนั้นให้ได้ ซึ่งหลักสำคัญในวิธีหลุดพ้นจากความทุกข์คือ ตามหลักพุทธศาสนา คือการปล่อยวาง” พร้อมทั้งยังพูดถึงความรู้สึกที่ชนะเลิศในการประกวดครั้งนี้ว่า “ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่ผลงานของผมได้รับการคัดเลือกให้เป็นรางวัลชนะเลิศจากเวทีการประกวดจิตรกรรมยูโอบีในปีนี้ เพราะเวทีนี้เป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ทำให้ผลงานของผมจะได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นนอกเหนือจากในประเทศไทย ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าโอกาสในการแสดงผลงานในตลาดต่างประเทศจะช่วยต่อยอดอาชีพศิลปินของผมได้ต่อไป และในฐานะศิลปินไทย ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้เป็นตัวแทนประเทศและศิลปินไทย ไปร่วมโชว์ผลงานและประกวดในระดับภูมิภาค”

โดยนายจงจิตร ได้รับเงินรางวัลจำนวน 750,000 บาท และจะเป็นตัวแทนจากประเทศไทยเข้าแข่งขันกับประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ในรางวัลระดับภูมิภาค UOB Southeast Asian Painting of the Year นอกจากนี้ นายจงจิตร ยังจะได้มีโอกาสได้รับคัดเลือกเข้าร่วมเป็นศิลปินในพำนัก (artist in residence) กับพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น (Fukuoka  Asian Art Museum) เป็นเวลา 1 เดือน พร้อมได้จัดแสดงผลงานที่ หอศิลป์ยูโอบี ณ ธนาคารยูโอบี สำนักงานใหญ่ ประเทศสิงคโปร์  ส่วนผลการประกวดรางวัลประเภทศิลปินอาชีพ  ในระดับเหรียญทองได้แก่ “นายสุเทพ เส็นคง”  ผลงาน “ท่วงทำนองของชีวิต” ได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท  เหรียญเงินได้แก่ “นายณัฐิวุฒิ พวงพี”  ผลงาน “ไหม้ รัก 2” ได้รับเงินรางวัล 240,000 บาท และเหรียญทองแดงได้แก่ “นายปกรณ์ภัทร์ จันทะไข่สร” ผลงาน “อาหารพื้นบ้าน” ได้รับเงินรางวัล 150,000 บาท

สำหรับประเภทศิลปินใหม่หรือสมัครเล่นผู้ชนะเลิศได้แก่ นายเกษศักดา วิมลทรง อายุ 25 ปี จากผลงานที่มีชื่อว่า “ผลกระทบ บริโภค” ได้รับเงินรางวัล 90,000 บาท ซึ่งภาพสื่อให้เห็นถึงการบริโภคในชีวิตประจำวันของมนุษย์ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับพลาสติกทั้งทางตรงและทางอ้อม อันส่งผลกระทบอย่างมากมายในปัจจุบัน ทั้งยังอันตรายต่อธรรมชาติและมนุษย์ ซึ่งจะได้ไปร่วมแสดงผลงานที่ หอศิลป์ยูโอบี ณ ธนาคารยูโอบี สำนักงานใหญ่ ประเทศสิงคโปร์ เช่นเดียวกัน ส่วนเหรียญทอง ได้แก่ “นายรัตน ไวยะราบุตร” ผลงาน “มูลมัง หมายเลข 1” ได้รับเงินรางวัล 75,000 บาท เหรียญเงินได้แก่ “นายธนพล ขวัญทองยิ้ม” ผลงาน “บ้านคนใต้” ได้รับเงินรางวัล 45,000 บาท และเหรียญทองแดงได้แก่ “นายกอบพงษ์ ขันทพันธ์” ผลงาน “ตั้งสติก่อนสตาร์ท”  ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท

สำหรับคณะกรรมการตัดสินจัดการประกวดจิตรกรรมยูโอบีประจำปี 2559 ประกอบด้วย อาจารย์อำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ คณบดีคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. สันติ เล็กสุขุม ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ และ นายฉัตรวิชัย  พรหมทัตตเวที เลขามูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครและกรรมการบริหาร