ศิษย์ธรรมกายเข้าวัดทำบุญ 2 ธ.ค.ถวายเป็นพระราชกุศล-โฆษกเผย“อย่าทำให้ลูกศิษย์ตกใจ”ไม่ได้ท้าทายใคร-ทำให้ตกเป็นจำเลยสังคม

โฆษกวัดพระธรรมกายเผย 2 ธันวาคมนี้ศิษย์นับแสนเข้าวัดทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลในหลวง ร.9 ขออย่าตีความ“อย่าทำให้ลูกศิษย์ตกใจ”เป็นการท้าทายไม่ได้ท้าทายอะไรทั้งสิ้น ทำให้ต้องตกเป็นจำเลยสังคมยืนยันพระธัมมชโยไม่มีมอบตัว

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2559 ที่มหารัตนวิหารคด ภายในวัดพระธรรมกาย ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายองอาจ  ธรรมนิทา โฆษกวัดพระธรรมกาย  กล่าวถึงกรณีที่พระราชภาวนาจารย์ หรือเผด็จ ทตฺตชีโว รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้หารือกับตำรวจเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนเพื่อหาแนวทางการเข้ามอบตัวของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า เท่าที่ทราบไม่เป็นความจริงที่พระธัมมชโยจะมอบตัวต่อตำรวจ การออกไปพบคือการให้เกียรติต่อตำรวจ

นายองอาจยืนยันว่าวัดและพระธัมมชโยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด ส่วนที่มีการไปตีความว่า"อย่าทำให้ลูกศิษย์ตกใจ"และมีการนำไปพาดหัวข่าวจนทำให้ตนต้องตกเป็นจำเลยสังคม เหมือนกับตนไปท้าทายเจ้าหน้าที่นั้น ขอร้องอย่าสร้างคู่ขัดแย้งให้เกิดขึ้น เพราะขณะนี้ทุกคนมาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่"ในหลวง รัชกาลที่9"

นายองอาจกล่าวว่าไม่ได้ท้าทายอะไรทั้งสิ้น เรามุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม ส่วนลูกศิษย์ที่มาอยู่ข้างๆหลวงพ่อก็แค่เพียงสวดมนต์ไม่ได้มาเป็นกำแพงมนุษย์หรือขัดขวางตำรวจ

แจ้งวัดพระธรรมกายหมิ่นประมาทดีเอสไอ

ทางด้านพระครูวิจิตรอาภากร เจ้าคณะตำบลคลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากทั้งดีเอสไอ และตำรวจ ในการเข้าเจรจากับทางวัดพระธรรมกาย เกี่ยวกับกรณีพระธัมมชโยมีเพียงดีเอสไอเดินทางมาพบเมื่อวันที่ 25 พ.ย. เพื่อประสานนำหมายเรียกครั้งที่ 2 กรณีพระสงฆ์วัดพระธรรมกาย พาดพิงดีเอสไอดำเนินคดีกับพระธัมมชโย ซึ่งเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยได้มีการนำหมายเรียกแจ้งไปยังวัดพระธรรมกายแล้ว

สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์ เรื่อง กรณีวัดพระธรรมกายระบุว่า ตามที่วัดพระธรรมกายกำลังเผชิญอยู่กับอำนาจรัฐในขณะนี้ สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยในฐานะเป็นองค์กรพุทธองค์กรหนึ่งรู้สึกวิตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นห่วงว่าการกระทำครั้งนี้ของรัฐจะเป็นการทำให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์อีกหลาย สถานการณ์ซึ่งไม่สมควรเกิดขึ้นในสังคมไทยในเวลานี้จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลใช้อำนาจรัฐอย่างรอบคอบ และเป็นธรรม เพื่อความสงบสุขของสังคม   

ศิษย์ธรรมกายไปปฏิบัติธรรมตามปกติ

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าในวัดพระธรรมกายเป็นไปอย่างสงบ มีบรรดาสาธุชนเดินทางมาปฏิบัติธรรมตามปกติ โดยผู้ที่เข้าไปภายในวัด ต้องผ่านประตูที่ 7 ซึ่งเป็นทางเข้าหลักของวัด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรวจตราดูแลรถที่ผ่านเข้าออกอย่างเข้มงวด

สำหรับสื่อมวลชนที่เข้ามาภายในวัด ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเต็นท์บริเวณด้านหน้าสำนักสื่อสารองค์กร พร้อมบริการอาหารเครื่องดื่มไว้ต้อนรับบรรดาสื่อมวลชน โดยให้ลงทะเบียนและสวมปลอกแขนระบุถึงสังกัด ทั้งนี้ ยังไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปเก็บภาพบริเวณอื่นภายในวัด เนื่องจากจะทำให้ผู้มาปฏิบัติธรรมไม่มีสมาธิ และตื่นกล้อง แต่จะกำหนดให้ถ่ายภาพได้ในช่วงเวลา 14.00-16.00 น. และต้องให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการของวัดเป็นผู้พาไป เพราะหากไปเองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะไม่อนุญาตให้เก็บภาพได้

ธรรมกายระดมศิษย์นับแสนทำบุญ 2 ธันวาคม     

นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า การที่ตำรวจขีดเส้นตายให้พระธัมมชโยมอบตัวภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ทางวัดเห็นว่าควรจะเป็นไปตามกฎหมาย และที่วัดก็มีฝ่ายกฎหมายรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว ที่ผ่านมาทางวัดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด ขอยืนยันอีกครั้งว่าพระธัมมชโยยังคงนอนรักษาอาการป่วยอยู่ที่วัด ไม่ได้ออกจากวัดมาเป็น 10 ปีแล้ว ส่วนข่าวลือที่ว่าหนีไปต่างประเทศไม่เป็นความจริง

สำหรับกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งจับตาสถานการณ์วัดพระธรรมกาย นั่นเป็นคำพูดของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง แต่ทางวัดไม่มีความจำเป็นต้องพาสื่อไปดูอาการพระธัมมชโยเหมือนครั้งก่อน เพราะครั้งที่แล้วแม้ทางวัดจะแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่บางคนกลับมองว่าวัดจัดฉากตัดต่อฉาก จึงไม่มีความจำเป็นต้องสร้างกระแสอะไรอีก

ขณะที่ทางวัดเตรียมทำบุญครั้งใหญ่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งจะมีศิษยานุศิษย์นับแสนคนเดินทางมาร่วมงาน ขอยืนยันว่าไม่ใช่การปลุกระดมคนแต่อย่างใด งานนี้เป็นงานทำบุญ นัดหมายกันในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ แต่ยังไม่ยืนยันว่าพระธัมมชโยจะเข้าร่วมพิธีวันดังกล่าวหรือไม่ ต้องถามความเห็นแพทย์ที่รักษาอาการหลวงพ่อก่อน

พล.อ.ประวิตรไม่ต้องห่วงไม่มีมือที่ 3

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการดำเนินการต่อพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หลังจากที่ศาลอนุมัติหมายจับในข้อหาบุกรุกที่ดินและอัยการสั่งฟ้องในคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนียนฯ ว่ากระบวนการในการติดตามจับกุมทำไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว

ส่วนกรณีที่ศิษยานุศิษย์กังวลว่าจะมีมือที่ 3 เข้าไปสร้างความวุ่นวายนั้นไม่ต้องกังวลเนื่องจากหน่วยงานด้านการข่าวเข้าไปตรวจสอบแล้วไม่พบเรื่องมือที่ 3 แต่อย่างใด ทั้งนี้การข่าวของกองทัพ หน่วยความมั่นคงต่างๆ และตำรวจยืนยันตรงกันว่าพระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย มีแต่ผู้สื่อข่าวเท่านั้นที่ไปพูดว่าหลวงพ่อหนีออกจากวัดไปแล้ว ตนก็ตอบย้ำหลายครั้งว่ายังอยู่ก็ไม่เชื่อ ตนพูดแต่เรื่องจริง เรื่องไม่จริงไม่พูด ไม่ต้องมาถามอีก

ตำรวจพบรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุม สภ.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รักษาราชการแทน ผบก.ส.4 เดินทางไปยัง สภ.คลองหลวง เพื่อหารือกับพระราชภาวนาจารย์ หรือ เผด็จ ทตฺตชีโว รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย กรณีการแจ้งข้อกล่าวหากับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในคดีรุกป่า ที่ จ.เลย และ จ.นครราชสีมา โดยมี พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.เขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พร้อมส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วม

การพบปะกันใช้เวลาประมาณ 40 นาที เพื่อทราบแนวทางของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะนำเรื่องไปแจ้งให้พระธัมมชโยทราบ เพื่อให้พิจารณาตัดสินใจว่าจะให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาหรือออกมาพบเจ้าหน้าที่

กระทั่งเวลา 18.00 น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช เดินออกมาจากห้องประชุม พร้อมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้เป็นการนัดตัวแทนของวัดพระธรรมกายมาเจราจรขั้นตอนการเข้ามามอบตัวของพระธัมมชโยแต่ยังไม่เป็นผลสำเร็จ ทั้งนี้กระบวนการเจรจาอยู่ระหว่างดำเนินการ

ส่วนรายละเอียดต้องให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เป็นผู้ให้ข่าว ตนได้รับมอบหมายให้มาพบผู้แทนของทางวัด เพื่อแจ้งวัตถุประสงค์การดำเนินการเพื่อให้วัดนำไปพิจารณา จากแหล่งข่าวยังเชื่อมั่นว่า พระธัมมชโย ยังรักษาอาการอาพาธอยู่ภายในวัด

ผู้ที่เข้าไปภายในวัดพระธรรมกาย ปทุมธานี ต้องผ่านประตูที่ 7 เป็นทางเข้าหลักของวัด มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรวจตราดูแลรถที่ผ่านเข้าออกอย่างเข้มงวด