เมื่อทายาทของกษัตริย์อิตาลีองค์สุดท้าย มาเปิดร้านขายอาหารสไตล์ฮิปสเตอร์!!

ผู้ที่มียศถาบรรดาศักดิ์สูงส่งก็อาจกลายเป็นคนธรรมดาในวันหนึ่งได้เช่นกัน อย่างเช่นหลานชายของสมเด็จพระเจ้าอุมแบร์โตที่ 2 กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งอิตาลี ที่กลายมาเป็นเจ้าของรถขายอาหารอิตาลีสไตล์ฮิปสเตอร์

เจ้าชาย Emanuele Filiberto di Savoia เป็นหลานชายของ สมเด็จพระเจ้าอุมแบร์โตที่ 2 กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ซาวอย ก่อนที่อิตาลีจะเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นแบบสาธารณรัฐ

สมเด็จพระเจ้าอุมแบร์โตที่ 2 ทรงครองราชบัลลังก์อิตาลีระหว่างวันที่ 9 พฤษภาคม 1946 จนกระทั่งสถาบันกษัตริย์ของอิตาลีถูกยุบเลิกเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนในปีเดียวกัน

ลูกหลานของพระเจ้าอุมแบร์โตที่ 2 ต่างก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตน เช่นเดียวกับเจ้าชายเอ็มมานูเอล วัย 44 ปี ที่ปัจจุบันประกอบธุรกิจร้านอาหารอิตาลีชื่อว่า Prince of Venice

อาหารของ Prince of Venice นั้นไม่ได้มีราคาแพงเลย อย่างเช่นพาสต้าเห็ดทรัฟเฟิลที่ขายเพียงจานละ 559 บาท หรือพาสต้าทะเลที่ขายเพียงจานละ 520 บาทเท่านั้น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับคุณภาพของวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี ซึ่งแป้ง น้ำมันมะกอก เห็ด และเครื่องเทศต่างๆ นั้นถูกนำเข้ามาจากอิตาลี จะมีก็เพียงแต่ไข่หรือเนื้อบางชนิดเท่านั้นที่ใช้ของคุณภาพดีจากในแคลิฟอร์เนีย

รถขายอาหารของ Prince of Venice ตั้งอยู่ในลอสแอนเจลิส เมนูหลักที่เจ้าชายเน้นคือพาสต้าเส้นสดกับซอสทำเอง “ผมต้องการสร้างสรรค์เมนูพาสต้าแบบต้นตำรับที่ทำมาจากวัตถุดิบคุณภาพชั้นเลิศ”เจ้าชายเอ็มมานูเอลได้ว่าจ้างเชฟชื่อดัง Mirko Paderno มาช่วยผลักดันธุรกิจของเขา เชฟ Mirko ให้สัมภาษณ์ว่าเขารู้จักกับเจ้าชายเอ็มมานูเอลมานานแล้ว และรู้สึกสนใจมากเมื่อได้รับคำเชิญในการทำธุรกิจ เพราะรถขายอาหารของพวกเขาจะเน้นขายอาหารในงานเลี้ยงท้องถิ่นเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปมีโอกาสได้สัมผัสกับอาหารอิตาลีเลิศรส

นอกจากร้านอาหารอิตาลีสไตล์ฮิปสเตอร์แล้ว เจ้าชายแห่งราชวงศ์ซาวอยยังเป็นทั้งนักลงทุน นักจัดรายการโทรทัศน์ ผู้ผลิต นักเขียน และยังเป็นเจ้าชายใจบุญที่มักบริจาคเงินให้กับผู้ยากไร้ครอบครัวของเจ้าชายเอ็มมานูเอลถูกเนรเทศออกจากอิตาลีเป็นเวลานานถึง 50 ปี ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้กลับเข้าประเทศเมื่อปี 2002

เจ้าชายเอ็มมานูเอล ซึ่งเกิดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เดินทางกลับเข้าประเทศและได้กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการโทรทัศน์ นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์ AristoCrazy และมีแบรนดแฟชั่นของตัวเองชื่อว่า PrinceTees

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าเจ้าชายแห่งอิตาลีเคยเดตกับนางแบบสาวชื่อดัง “เคต มอส” แต่ปัจจุบันได้สมรสกับนักแสดงหญิงชื่อดังชาวฝรั่งเศส Clotilde Courau และมีทายาทด้วยกันสองคนคือเจ้าหญิง Vittoria แห่งซาวอย และเจ้าหญิง Luisa แห่งซาวอย