สามีหัวใจแทบสลาย! ร้องไห้3วัน3คืน เมื่อเปิด pantip แล้วไปเจอกระทู้ที่ภรรยาเองได้เขียนเล่าเรื่องราวตั้งแต่วัยรุ่นจนมีลูก2! จุกอกสุดๆ
กลายเป็นกระทู้สุด HOT ทันที เมื่อหนุ่มคนนี้ได้ตั้งกระทู้ใน Pantip พร้อมบอกว่า “เมื่อผมไปเจอกระทู้ของเธอในพันทิพย์…น้ำตาผมไหล3วัน3คืน” โดยกระทู้ของชายหนุ่มผู้นี้ได้เล่าเหตุการณ์ตั้งแต่สมัยเด็กมัธยม ที่เริ่มคบหากับแฟนสาวจนกระทั่งแต่งงานและมีลูกน้อยถึง 2 คน จนกระทั่งได้เข้ามาอ่าน Pantip แล้วไปพบกระกระทู้หนึ่ง เมื่ออ่านแล้วรู้สึกสงสัยว่าเป็นของภรรยาหรือไม่ ? เลยแอบเข้าเฟซบุ๊คของภรรยาแต่ไม่สำเร็จจึงนำกระทู้ดังกล่าวไปถามตรงๆ หลังจากนั้นได้คำตอบว่าใช่ จนกระทั่งถกเถียงไปมาได้คำตอบที่ทำเอาน้ำตาไหลไป 3 วัน 3 คืน .... เราไปอ่านเรื่องราวของชายหนุ่มคนนี้เลยดีกว่า..
ผมและเธอรู้จักกันเมื่อ ปี 2536 หรือเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ตอนนั้น ผมอยู่ ม.5 และเธอ อยู่ ม.2 พูดคุยกันเรื่อยมา แต่ก็ไม่บ่อยมากนัก จนผมเข้ามหาวิทยาลัย ก็ได้ติดต่อกันทางจดหมาย บ่อยบางถี่บ้างตามเวลา ที่พอจัดสรรค์ได้ เช่นช่วงสอบหรือเร่งรายงานผมก็จะไม่ได้เขียน จดหมายไปหา มีโทรคุยกันบ้าง นานๆครั้งเพราะเกรงใจที่บ้านของเธอ เราอาทิตย์เธอมาชวยอาจารย์สอนพิเศษ ซึ่งหลานผมก็เรียนอยู่ด้วย คุณแม่ผมท่านก็รักเอ็นดูเธอ ก็จะมีผลไม้จากสวนที่บ้านฝากหลานไปให้บ้างในบางวัน
ผมยอมรับว่าระหว่างเรียนอยู่นั้นก็มีผู้หญิงเข้ามาให้ทำความรู้จักบ้าง ใช่ว่าผมจะเป็นคนหน้าตาดีหรอกนะ ผมค่อยข้างสุขุม ดูเอาการเอางาน ไม่สูบบุหรี่ มีดื่มบ้างตามโอกาส แต่เมื่อพวกเธอเหล่ารู้ว่าผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้วเขาก็ถอยห่างออกไปเหลือเพียงความเป็นเพื่อนที่ดีเป็นที่ปรึกษากันจนถึงทุกวันนี้ จนเธอเข้าปีหนึ่ง ผมอยู่ปี4 แต่เรียนคนละจังหวัดกัน ตอนนี้เราคุยกันมากขึ้นโทรหากันมากขึ้น ส่วนมากเธอจะเป็นคนโทรหาเพราะเธอสะดวกกว่า ตอนนี้ผมคิดว่าผมโตพอที่จะรับผิดชอบอะไรได้บ้างแล้ว ผมก็บอกความประสงค์ในใจออกไป และที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งก็คือเธอตอบรับ
ผมยังจำได้ตอนนั้นผมซื้อตุ๊กตาช้างให้เธอตัวใหญ่เลย ตัวโตเท่าเธอได้มั่งเพราะเธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก เธอตั้งชื่อมันว่าขุนช้าง เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมาก เราก็เขียนจดหมายหากันบ่อยขึ้นจนวันหนึ่งคุณผมแม่เห็นเข้าก็บอกว่าจดหมายนี้เอาไปเป็นเชื้อไฟหุงข้าวสุกเลยนะเนี่ย คิดดูก็แล้วว่ามันมากขนาดไหน ผมเก็บไว้ทุกฉบับจนแม่รื้อบ้านสร้างใหม่ก็ปล่อยโดนฝนเสียหายไปตอนนั้นผมไม่ได้อยู่บ้านเสียดายมาก ๆ จนผมเรียนจบ รองานอยู่หกเดือนผมก็ได้บรรจุเข้ารับราชการ อยู่ใน กทม. ตอนนี้เราได้คุยทางโทรศัพท์มากกว่าการเขียนจดหมาย เพราะผมสะดวกขึ้น มีตู้สาธารณะมาก บางทีก็ต่อแถวยาวมาก หากไม่ต้องการต่อแถวก็ต้องรอดึกๆและจะได้คุยยาวๆ จนเธอเรียนจบและก็ได้รับราชการเช่นเดียวกันกับผมกันใน กทม. แต่เป็นคนละเขตกัน และเราก็แต่งงานกันตามประเพณี ในอีก 2 ปีต่อมา
ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมา เรา 2 คนเริ่มสร้างฐานะด้วยกันโดยเริ่มจาก 0 ด้วยกัน ตอนนี้มีบ้านเดี่ยว 51 ตรว. 1หลัง รถยนต์ 1 คัน มอไซต์ 1 คัน สองคนเงินเดือน หกหมื่นกว่าบาท มีพยานรักด้วยกัน 2 คน กำลังน่ารักน่าชัง เป็นธรรมาดาของชีวิตคู่ที่มีปากเสียงกันบ้างรักหวานชื่นกันบ้าง ชีวิตของผมและเธอมีแต่บ้านกับที่ทำงานนาน ๆจึงมีโอกาสไปพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง
และแล้วเมื่อ 3 วันทีผ่านมา ขณะที่กำลังท่องโลกอินเทอร์เน็ต ผมก็ไปพบข้อความหนึ่งเข้าโดยบังเอิญ ผมสงสัยว่าใช่บทความของภรรยาสุดที่รักของผมไหม อ่านแล้วมันน่าใช่แต่ไม่แน่ใจ ด้วยความอยากรู้ของผมจึงคิดล่วงละเมิดพื้นที่ส่วนตัวของเธอ โดยการแอบเข้า facebook ของเธอ โดยการเดารหัสผ่านจาก สิ่งใกล้ตัวของเธออ เช่น ทะเบียนรถ เลขที่บ้านวันเดือนปีเกิด เธอ,ลูกและผม ก็ไม่สามารถเข้าได้สุ่มหัสอยู่นาน จนสุดท้ายที่ ตัวเลขชุดหนึ่งแว๊บขึ้นมาเองในสมอง ก็เข้าไม่สารถเข้าได้เช่นกัน แต่…มันขึ้นว่า รหัสผ่านของท่านได้ถูกเปลี่ยนไปเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว…เลขชุดนั้นผมมาวิเคราะห์ดูอีกที่ว่าเป็นเลขอะไรก็นึกไม่ออกจากนั้น
ผมก็สืบต่อไปว่าบุคลทีเธอกล่าวถึงในบทความของเธอทำอะไรอยู่ที่ไหน บังเอิญทำอยู่ที่เดียวกับเพื่อนผม ผมก็ได้ประวัติความเป็นมาของเขาคนนั้น ผมก็นำบทความนั้นไปถามภรรยาที่รักของผมว่าใช่บทความของเธอไหมแรกๆเธอก็อ้ำอึ้งแต่สุดท้ายเธอก็สารภาพว่าเป็นของเธอเอง…ผมก็เล่าให้ฟังว่าคนๆนั้น กำลังจะแต่งงานกับผู้ในที่ทำงานของเขาและมีเรื่องกล่าวถึงเขาในทางเสียหายมาก ๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้พิสูจน์หรอก ว่าจริงเท็จแค่ไหน บอกไปตามที่ได้ฟังมา และขอให้เธอเลิกติดต่อกับเขาเสีย สิ่งที่ผมได้กลับมาคือเธอโกรธผมเป็นฟืนเป็นไฟบอกว่าเขาไม่เกี่ยวข้องอะไรแล้วต่างคนต่างอยู่เรื่องที่เล่ามาจริงไม่จริงก็ไม่มีผลกับเธอเพราะที่เธอรับรู้และสัมผัสได้เขาคือคนดี มีแต่สิ่งดี ๆ ที่จำได้และอยู่ในความทรงจำประมาณนี้แหละ
ผมกลับกลายเป็นหมาไปเลย ….. ผมก็ถามต่อ ว่ารหัสผ่าน facebook เลขชุดนี้คือเลขอะไรบอกได้ไหม เธอบอกว่า จะรู้จะรื้อฟื้นไปทำไม อยากรู้ก็บอกได้แต่เราต้องเลิกกัน…..มันสำคัญขนาดนั้นเลยรึ….เมื่อคืนทั้งคืนผมนอนไม่หลับมานั่งวิเคราะห์เลขใหม่ นั่งดูอยู่ตั้งนาน มันคือ วัน เดือน ปีนี่เอง ผมก็ลองดูว่าเป็น วัน เดือน ปี อะไร…ปรากฎว่าเป็นวันเดือนปีเกิดของคนๆนั้นที่เธอกล่าวถึง…. อึ้งไหมละ ผมนี่นี่นั่งช็อกอึ้งน้ำตาไหลออกมาเองอยู่นานกว่าจะตั้งสติได้ ……ผมรู้และไว้ใจภรรยาของผมดีว่าเธออยู่กับผมไม่มีประพฤติออกนอกลู่นอกทางแน่นอน…เพราะเธอเป็นภรรยาแสนดีของผมมาตลอด…..ผมเจ็บนะแล้วหากเป็นคุณละคุณเจ็บไหม…..แต่ไม่โกรธเธอนะ..เพราะอะไรก็ไม่รู้ เฝ้าแต่โทษตัวเองว่า เวลา เกือบ20 ปีที่อยู่กินกันมาไม่สามารถทำให้เธอลืมอดีตได้เลยหรือ…เช็ดน้ำตาแป๊บ…
สิ่งที่ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้คือ
1.ทำให้รู้ว่าอย่าก้าวไปในพื้นที่ส่วนตัวของใคร
2.เธอโกรธผม 3 วัน 3 คืนแล้วด้วยข้อหาที่ว่า ผมไม่ไว้ใจเธอ อยู่กันมาเกือบ 20 ปี ยังไม่ไว้ใจกันอีกหรือ แสดงว่าที่ผ่านมาเข้าใจว่าเขาคิดไม่ซื่อกับผมมาตลอดใช่ไหม ซึ่งมันไม่ใช่เลยผมไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำ เพราะเธอคนแรกและคนเดียวของผมและผมก็มั่นใจว่าเธอมีผมคนเดียวมาตลอดเพราะเรารักกันมานานและเชื่อว่าเธอรักในความดีผมจึงทำให้เรารักกันยืนยาว
3.ทำให้ผมรู้จักและเข้าใจเข้าใจอารมณ์ของคนที่อกหักว่าเป็นอย่างไร ซึ่งผมไม่เคยเจอมาก่อน
คำถาม
1.ผมผิดไหมที่ทำเช่นนี้ถ้าผิดมันผิดมากแค่ไหน
2.ถ้าคุณเป็นผมคุณจะรู้สึกเช่นไรและคุณจะทำเช่นไร
3.เธอว่าผมดูถูกความรักของเธอที่มีต่อผม…เธอว่าอดีตคืออดีต…(นี่มันคืออดีตหรือ ตั้งรหัส ผ่านเฟส ด้วยวัยเกิดของเขาคนนั้น) คุณเห็นด้วยกับเธอไหม
ปล.เธอว่าที่ผมทำมานั้นผมผิดประมาณว่า ผมไม่ไว้ใจเธอ ให้ผมไปถามใครก็ได้ว่าผมเช่นนี้ใคร ๆก็ว่าผมผิด ผมเลยมาถามในนี้ เพราะไม่มีใครรู้จักผมและเธอ จะได้ความจริงที่เป็นกลางมากกว่า ถ้าผมผิดจะได้ระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้นเพื่อ ครอบครัวของผม แต่เธอไม่รู้หรอกว่าผมมาถามในนี้
และ นี่ คือกระทู้ของภรรยาที่เขาได้อ่านโดยบังเอิน
เป็นเรื่องนานมาก 18 ปีแล้วค่ะ แต่ยังไม่เคยลืมกัน....ตอนนั้นเข้าเรียนปี 1 ก็มีรุ่นพี่เป็นพี่รหัสมาคอยเทคแคร์ตลอด มันเกิดเป็นความรู้สึกดีๆ ต่อกันแล้วเป็นความผูกพันกันมากขึ้นเพราะเขาดูแลเอาใจใส่ตลอด ด้วยอารมณ์คนที่เพิ่งออกจากบ้านมาเรียนตจว. มาเจอคนที่อบอุ่น และดูแลสม่ำเสมอแม้ในวันวันที่ป่วยก็พาไปหาหมอ เฝ้าไข้ จนหาย มันไม่แปลกเลยที่จะเปลี่ยนใจจากคนที่เคยคุยด้วยตอน ม.ปลาย มาเป็นคนที่ดูแลในวันนั้น
4 ปีที่เรียนเขาคอยอยู่ข้างๆ ตลอดแม้ในวันที่เขาเรียนจบไปก่อน เขาก็ไม่เคยห่างหายไปไหนนานๆ เพียงแค่เขาไปเรียนต่อโท แต่ในปีนั้นก็มีโอกาสได้กลับมาคุยกับคนเดิม ใกล้ชิดกัน และด้วยความเป็นผู้ใหญ่ของเขาทำให้เราหวั่นไหวอีกครั้ง
ในวันที่เราเรียนจบ วันที่เราต้องเลือกระหว่างคนเก่าที่มีความมั่นคง กับคนที่รักและดูแลอย่างดีตลอดมา...........เราเลือกความมั่นคงให้กับชีวิต
แล้วทิ้งคนที่รักเราไว้ให้เขาเดินบนถนนการศึกษาของเขา เพื่อแต่งงานกับคนที่มั่นคงในวันนั้น............
มาวันนี้ 18 ปีแล้ว เขาคนที่ฉันเคยทิ้งเขาไว้ก็ก้าวตามความฝันจนสำเร็จ มีชีวิตที่มีความสุขโดยเอาความรักที่เคยมีครั้งเดียวนั้นเป็นน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจเขาตลอดมาเขาไม่เคยกล่าวโทษฉัน เขาเปลี่ยนเป็นพี่ชายที่แสนดีและเข้าใจฉันเสมอ
แต่สิ่งที่ฉันได้รู้คือ ความมั่นคงที่ฉันเลือกวันนั้น ฉันทำให้เขาไม่มีความสุขอย่างที่เขาควรจะเป็น ฉันเองก็มีความสุขแบบมีเงาของคนๆ นั้นซ่อนอยู่ลึกๆ ทุกวันนี้ฉันต้องรับผิดชอบสิ่งที่ฉันเลือกด้วยการดูแลเทวดาและนางฟ้า 2 คนให้ดีที่สุด และรับผิดชอบคนที่ฉันเลือกเขาด้วยหน้าที่ที่ควรจะทำด้วยความถูกต้องตลอดมา
แต่ในบางครั้ง บางเวลา ก็อดโกรธตัวเองไม่ได้เมื่อนึกย้อนไปวันก่อน ............ ทำไมไม่ให้โอกาสหัวใจ ทำไมไม่รอ ถ้าฉันรอฉันคงยิ้มได้เต็มหัวใจและผช.2 คนที่รักฉันก็คงยิ้มได้มากกว่านี้................นี่เป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของฉันใช่มั้ย